การย้ายโดเมนเนมและโฮสติ้ง

การย้ายโดมเมนเนมและโฮสติ้งมาใช้บริการกับเรา ลูกค้าสามารถออร์เดอร์บริการของเราได้ที่ลิ้ง http://www.chiangmai-webdesign.com/whmcs/cart.php ข้อมูลที่ต้องเตรียมเพื่อทำการย้ายโดเมนเนมหรือโฮสติ้งมีดังนี้ กรณีย้ายโฮสติ้งและโดเมนเนม 1) ข้อมูลโฮสติ้ง (Control Panel) username และ password 2) ทำการเปลี่ยน Name Server (DNS) หรือแจ้งผู้ดูแลโดเมนเนมให้ทำการเปลี่ยน Name Server (DNS) เป็น ns1.onlinedevhosting.com และ ns2.onlinedevhosting.com 3) ขอ Aulth Code จากผู้ดูแลโดเมนเนมเพื่อทำการย้ายโดเมนเนม 4) แจ้งผู้ดูแลโดเมนเนมทำการปลดล็อกโดเมนเนม * การย้ายโดเมนเนมใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 5-7 วัน กรณีย้ายโฮสติ้งอย่างเดียว 1) ข้อมูลโฮสติ้ง (Control Panel) username และ password และลิ้งเพื่อล็อกอินเข้าสู่ Control Panel 2) ทำการเปลี่ยน Name Server (DNS) หรือแจ้งผู้ดูแลโดเมนเนมให้ทำการเปลี่ยน Name Server (DNS) เป็น ns1.onlinedevhosting.com และ ns2.onlinedevhosting.com   สนใจบริการอื่นของเรา รับทำเว็บไซต์ เชียงใหม่, รับโปรโมทเว็บไซต์ เชียงใหม่  

การตั้งค่า Outlook โดยเชื่อมต่อกับ server โดยตรง (โฮสติ้งต่างประเทศ)

อาจมีบางครั้งที่โดเมนยังไม่สามารถใช้งานได้ หรือเหตุผลอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเราต้องการใช้งานอีเมล เราสามารถเชื่อมต่อกับ server โดยตรงได้อีกช่องทางหนึ่ง ผมจะอธิบายไว้ด้านล่างนี้นะครับ การตั้งค่า หากเป็นการเชื่อมต่อ Outlook แบบ IMAP อีเมลขาเข้ารจะใช้ Port 993 ดังรูป ส่วนแบบ POP3 ใช้อีเมลขาเข้า Port 995 นะครับ     SC20140603-195112                     รับทำเว็บไซต์  

วิธีการตั้งค่าอีเมลให้กับ Android

ได้แจ้งวิธีการตั้งค่าอีเมลให้กับ iPhone/iPad/Macbook ไปแล้ว หากจะไม่บอกค่า Android ต่อก็ยังไง ๆ อยู่ วันนี้เลยเอาหน้าจอ Android มาให้ดูกันเลยครับ (อธิบายเมนูภาษาไทย)  


1. เข้าไปเมนูตั้งค่า และจะเจอเมนู แอคเคาท์และการซิงค์ ตรงมุมขวาบนจะมีปุ่ม เพิ่มแอคเคาท์ ให้กดไปเลยครับ หน้าจะก็จะขึ้นมาให้เลือกดังภาพ SC20140603-195112  

SC20140603-195119  

2. ทำการกรอกอีเมลและรหัสผ่าน และคลิก ถัดไป SC20140603-195152  



3. เลือก IMAP หมายเหตุ: IMAP คือการ copy อีเมลมาใช้ที่เครื่อง ส่วน POP3 เป็นการดูดอีเมลมาใช้ที่เครื่อง อีเมลทั้งหมดจะถูกดูดจากเครื่อง server มาที่เครื่องนี้ ดังนั้นจึงควรใช้ IMAP จะปลอดภัยกว่าครับ SC20140603-195206  



4. พิมพ์ข้อมูลดังภาพด้านล่างนี้ (การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์รับ) - ชื่อผู้ใช้ให้กรอกอีเมลแบบเต็ม - เซิร์ฟเวอร์ IMAP ให้ใส่ mail.yourdomain.com - Port ให้ใช้ค่าเริ่มต้น (143) - คลิก ถัดไป SC20140603-195322    



5. พิมพ์ข้อมูลดังภาพด้านล่างนี้ (การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์การส่ง) - ชื่อผู้ใช้ให้กรอกอีเมลแบบเต็ม - เซิร์ฟเวอร์ IMAP ให้ใส่ mail.yourdomain.com - Port เปลี่ยนเป็น 25 หรือ 587 - คลิก ถัดไป SC20140603-195354  



6. เลือกเวลาการเชื่อมต่อดึงอีเมล และคลิก ถัดไป SC20140603-195410  



7. ตั้งชื่ออีเมล SC20140603-195456 เป็นอันเสร็จสิ้นการตั้งค่าอีเมล ง่ายไหมครับ  

การใช้งานโปรแกรม Team Viewer Remote Desktop

สวัสดีครับครับผู้ติดตามบล็อกทุกท่าน วันนี้จะมานำเสนอการใช้งานโปรแกรม Team Viewer เป็นโปรแกรมรีโมตหน้าจอคอมพิวเตอร์ระยะไกล ใช้กันมากอย่างแพร่หลายและเป็นโปรแกรมยอดฮิตในขณะนี้ เพราะมีความเร็วในการใช้งานและปลั๊กอินให้เยอะแยะ ที่สำคัญคือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคก็สามารถใช้ได้ มาดูกันเลย

1. ดาวน์โหลดโปรแกรม Team Viewer ที่เว็บไซต์ www.teamviewer.com

team viewer

2. Save โปรแกรมนี้ไว้ที่หน้าจอ และดับเบิ้ลคลิกขึ้นมา และคลิก Run และ Next ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอหน้าจอดังภาพ

002

* กรณีที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นเข้ามารีโมตใช้เครื่องของท่าน ให้แจ้ง ID และ Password เครื่องของท่านดังหมายเลข 1 (ซ้ายมือ) เช่น โทรแจ้ง ID เป็นต้น

* กรณีที่ท่านต้องการรีโมตเครื่องอื่น ให้โทรสอบถาม ID และ Password จากเครื่องปลายทางที่ท่านต้องการรีโมต และกรอก ID ดังภาพที่ 2

แค่นี้ท่านก็สามารถเข้าไปใช้งานเครื่องปลายทางได้แล้วครับ ง่ายไหมครับ

การเปลี่ยนรหัสผ่าน Roundcube Webmail

วิธีการเปลี่ยนรหัสผ่านของเว็บเมลชื่อดัง Roundcube ที่ใช้กันมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ดังด้านล่างนี้เลยครับ

1. ล็อกอินเข้าเว็บเมลโดยพิมพ์ www.yourdomain.com/webmail จะเจอหน้าดังรูปและให้กรอกอีเมลและรหัสผ่านเข้าไป



2. เมื่อเข้ามาแล้วจะแสดงหน้าจออีเมลดังภาพ ให้กด Setting ด้านขวามือบน

002

3. คลิเมนูป Password ดังภาพด้านล่างนี้

003

4. ทำการกรอกรหัสผ่านใหม่ดังภาพ เป็นอันเสร็จสิ้นการเปลี่ยนรหัสผ่าน

004

บริการ รับทำเว็บไซต์

ตรวจสอบ สถิติ ความน่าสนใจในเว็บไซต์เรา

วันนี้เรามาดู สถิต ของคนที่เข้าใช้เว็บไซต์ของเรากันนะครับ เป็นสิ่งที่ Webmaster ผู้ที่เริ่มทำเว็บไซต์ หรือมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ต้องอยากทราบว่า เว็บไซต์ที่เราทำขึ้นมาและเนื้อหาที่นำมาลงนั้น มีความน่าสนใจ และดึงดูดผู้เข้าชมแต่ละคน ในแต่ละวันมากน้อยเพียงใด  อยู่ในเว็บไซต์ของเรานานแค่ไหน และเข้ามาอ่าน นานแค่ไหน วิธีการตรวจสอบที่ง่ายและที่นิยมใช้กัน คือ 1. ทำการติดตั้ง  Stats เพื่อนับจำนวนจำนวนคนเข้าเว็บต่อวัน (UIP) ของเราก่อน 2. แล้วทำการติดตั้ง Hitstats สำหรับเช็คจำนวนหน้าที่เปิดดูของวันนี้  (Page.Today) เมื่อได้ทั้ง UIP และ Page.today ที่ได้ในแต่ละวันมาแล้ว ก็ให้นำจำนวนหน้าที่เปิดดูของวันนี้ที่ได้  นำมา หาร กับ จำนวนคนเข้าเว็บต่อวัน Page.Today / UIP ก็จะทราบว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1 ท่านเฉลี่ยแล้วเข้าไปชมหน้าเว็บไซต์ของเรากี่หน้า ข้อมูลเหล่านี้เราสามารถเก็บเป็นสถิติ เพื่อเปรียบเทียบการเข้าชมของ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ในแต่ละช่วงได้ และมีประโยชน์ในการตรวจสอบว่าในการทำ SEO ของเราสามารถเพิ่ม ปริมาณ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ได้มากน้อยเพียงใด และมีอันดับในการค้นหาของ search engine ที่ดีขึ้นหรือไม่ด้วยครับ

วิธีทำ captcha ใน CI (CodeIgniter)

ที่จริงใน CI framework มีตัว recaptcha ให้อยู่แล้วนะครับแต่ปัญหาคือ มันอ่านยาก วันนี้เลยมีวิธีการทำ captcha แบบง่ายๆมาแบ่งปันครับ 1. โหลดไฟล์ Captcha-library-for-CodeIgniter 2. จากนั้นให้ copy ไฟล์ antispam.php ไปไว้ใน application/libraries/ 3. วิธีเรียกใช้ใน controller $this->load->library('antispam'); $configs = array( 'img_path' => './assets/img/captcha/',              //ใส่ path ที่จะเก็บรูปนะครับ 'img_url' => base_url() . 'assets/img/captcha/',                  //ลิงก์ของรูปภาพ 'img_height' => '50', ); $captcha = $this->antispam->get_antispam_image($configs); 4. ในตัวแปร $captcha เป็น array ประกอบด้วยค่าดังนี้ array('word' => 'SZTHM', 'time' => time , 'image' => '<img .... '); 5. วิธีเรียกใช้ใน view ก็แค่ <?  echo $captcha['image'] ;  ?> แค่นี้ก็จะได้ captcha ดังภาพ captcha   *หมายเหตุ  วิธีการนำไปใช้หรือไปเช็คค่าขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละคนนะครับ และอีกอย่างรูปภาพที่ gen ออกมาจะเก็บไว้ใน โฟล์เดอร์นะครับ ซึ่งเราต้องทำการไปลบด้วยตัวเอง ส่วนวิธีการลบแบบอัติโนมัติให้ติดตามบทความต่อไปนะครับ

พื้นฐาน Sitemap ในการทำ SEO

Sitemap คือ แผนผังเว็บไซต์  ซึ่ง Sitemap ในเว็บไซต์จะเป็นการอธิบายโครงสร้างทั้งหมดของเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปเห็นถึงโครงสร้างของเว็บไซต์ และทำให้  Search Engine สามารถเข้าถึงโครงสร้างของเว็บไซต์เราด้วย ประโยชน์ที่ได้จากการทำ Sitemap - ในส่วนของ Search Engine นั้นจะช่วยเพิ่มโอกาศในการ Index มากขึ้นกว่าเดิม - ในส่วนของผู้ใช้งานนั้นจะเป็นในรูปแบบความสะดวกในการรับรู้โครงสร้างทั้งหมดของเว็บไซต์ และเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว - ในส่วนของผู้พัฒนาเว็บไซต์เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ ทำให้ง่ายต่อการพัฒนา

องค์ประกอบของ css

มีอยู่ 3 ส่วนคือ 1.Selector 2.Properties 3.Values ซึ่งถ้าไม่มี 3ส่วนนี้ครบ ก็จะไม่สามารถทำงานได้   ตัวอย่างการใช้งาน css h1 { color:#000; } h1 คือ selector ว่าเราเลือก tag h1 ทั้งหมด color คือคุณสมบัติที่เลือก ในที่นี้เลือกสี #000 คือ Values คือค่าของตัว Properties ซึ่งในที่นี้มีค่าเป็นสีดำ   สรุปก็คือ กำหนดให้ tag h1 ทั้งหมดเป็นสีดำ  

Web Designer VS UX Designer คนไหนดีกว่า?

ความแตกต่างระหว่าง UX  Designer และ Web Designer